เค เยาวราช –กอล์ฟ ภูตะคา 2 นักธุรกิจ จิตอาสาเพื่อสังคม...”ด้วยหัวใจที่ไม่เคยท้อ ...สานต่อธนาคารความดี”

 

       การเป็นผู้ให้ ไม่จำเป็นต้องเป็นคนรวยด้วยเงิน  แค่เพียงคุณทำหัวใจให้รวย...แบบผู้ให้ด้วยแรงกาย แรงใจ ศรัทธา และจิตอาสา  แค่นี้ก็สุขใจ...ที่ใครๆ ก็ทำได้  น้ำเสียงแห่งความสุขของ 2 หนุ่มนักธุรกิจ จิตอาสา 

เค เยาวราช –กอล์ฟ ภูตะคา   

       ภาพข่าวของ 2 นักจิตอาสาที่ออกข่าวทางทีวีอยู่เนืองๆ ซึ่งทั้ง 2 ท่าน และนักจิตอาสาท่านอื่นๆ ที่ทำความดีเพื่อถวายงาน พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ผ่านมา “ทำเพื่อพ่อเป็นครั้งสุดท้าย” ที่ท้องสนามหลวง

       ช่วงสายๆของ วันที่ 26 เมษายน 61 ที่ผ่านมา ณ บริเวณล็อบบี้ โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ  เวปไซด์ www.Unseenthinthai.com (Unseen ถิ่นไทย) ได้มีโอกาสมาพบตัวเป็นๆ สัมภาษณ์แบบเจาะลึก ถึงหัวใจ ของ 2 หนุ่มจิตอาสา ที่ขอบอกว่า ต้องคอยคิวนานมาก เพราะมีหลายสื่อ ทีวี หนังสือพิมพ์ และสื่อออนไลน์ ที่นั่งรอคิวกันเพี๊ยบ

       มาแล้ว !!!  พระเอกของเรา คุณสมศักดิ์ ศรีเพชร (เค เยาวราช ) และ คุณภูตะคา ชัยเชาวรัตน์ (กอล์ฟ) 2 คู่หู จิตอาสา มาในมาดแสนสมาร์ท สูทสีเทาบรอ พร้อมเปิดความสุขในใจที่ทำให้กับพี่น้องประชาชนคนไทย ทั่วทิศแดนไทย ได้สุขใจ อิ่มท้องกันถ้วนหน้า

ข้าวกล่องเดียว กับ เงิน 20.- บาท พลิกชีวิต ดช. เค – เยาวราช

         นายเค เยาวราช หรือ สมศักดิ์ ศรีเพชร หนุ่มใหญ่วัย 48 ปี เกิดมาในครอบครัวที่ยากจน มีพี่น้อง 12 คน เค เป็นลูกคนที่ 9 ที่ไม่ได้เรียนหนังสือ พ่อมีอาชีพเป็นนักมวยเก่า ด้วยความจน นายเค จึงต้องช่วยที่บ้านหาเงิน ตอนนั้นอายุเพียง 9 ปี ต้องไปชกมวยตามสนามมวยต่างๆ เพื่อแลกเงินมาช่วยเหลือที่บ้าน และวันนั้น ดช. เค ก็ทำหน้าที่เช่นเคย ไปชกมวยที่เวทีมวยสำโรง จ.สมุทรปราการ และถูกพี่เลี้ยงโกงเงินรางวัล สภาพตัวเองก็น่วมจากการถูกชก เงินไม่มีติดกระเป๋าสักบาท ก็ตุปัดตุเป๋เดินไปเรื่อยเปื่อย  จนเพลียหลับที่ท้องสนามหลวง ใต้ต้นมะขาม พอเช้าตื่นมาเห็นข้าว 1 กล่อง กับเงิน 20.- บาท ด้วยความเป็นเด็กก็ดีใจสุดๆ ในใจคิดว่าแต่ว่า ขอบคุณคนที่เอาข้าวมาให้พร้อมเงิน แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร รีบกินข้าว แล้วกลับบ้าน พ่อถามว่าได้เงินมามั้ย  ดช.ตัวน้อย บอกพ่อว่า วันนี้ชกแพ้ครับ ไม่ได้เงิน....(แอบร้องไห้ในใจตามประสาเด็กเนอะ)

           จากวันนั้นเค้าคิดเสมอว่า เค้าอยากช่วยคนจน หรือคนที่มีชีวิตลำบากเหมือนเขา  ให้มีชีวิตที่ดีขึ้นบ้าง อย่างน้อยก็มีข้าวกินให้อิ่มท้อง เหมือนตอนที่เค้าหิวข้าวแทบขาดใจ  แล้วได้ข้าว 1 กล่องจากคนใจบุญ ที่ไม่เคยเคยเห็นหน้าเลย

           จากดช.เค มาเป็น นายเค เยาวราช ชีวิตไม่ง่ายเลย ด้วยหัวใจที่ไม่เคยท้อที่จะทำความดีเพื่อสังคม ทำอาชีพมากกว่า 100 อาชีพ ทั้งเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว ชา กาแฟ ขนมปัง ไอสครีม อาหารตามสั่ง เวลาว่างก็ตระเวณขับแท็กซี่ ขับเรือ หรือแม้แต่การเป็นอาสากู้ภัยเก็บศพไร้ญาติฯ จนทำให้รู้จักเพื่อนฝูง และผู้ใหญ่มากมายหลายคนหลายวงการได้ให้ความเมตตาต่อเขา ทำให้มีแรงศรัทธาในการทำความดีจิตอาสาต่อไป เขาออกงานจิตอาสาฯ มาทุกพื้นที่ของไทย ทั้งที่พัทยา หลังสวน ฯลฯ

         และช่วงเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี พศ.2554 เขาได้ออกช่วยเหลือผู้ประสบภัยแทบจะทุกพื้นที่ที่ของไทย กับกิจกรรมจิตอาสาแจกจ่ายอาหาร เครื่องอุปโภคบริโภค ยารักษาโรค ฯลฯ เขาจะทำทุกครั้งที่มีโอกาส และไม่ได้ออกข่าวให้สังคมรับรู้ เขาทำด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์แบบปิดทองหลังพระ...แต่ทำให้เขากลายเป็นฮีโร่  ได้กัลยานิมิตมากมาย  ทำให้เขาต้องหยุดงานงานถึง 6 เดือนกว่าน้ำท่วมครั้งนั้นจะทุเลาลง  

จิตอาสา...เพื่อพระราชา ร.9 ของชาวไทย

        เพราะอยากตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน เขาได้อาสาตัวช่วยงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ตลอดเวลาปีกว่าที่ได้อาสาช่วยงานที่ท้องสนามหลวง  ได้เจอเพื่อนๆ พี่น้องจิตอาสาฯ หลายหน่วยงานสาธารณกุศล ที่ได้ช่วยเหลือสังคมเป็นจิตอาสาด้วยศรัทธาแรงกล้า จนได้มาเจอคุณกอล์ฟนักธุรกิจที่ปิดทองหลังพระมานาน และได้มาร่วมอุดมการณ์ที่จะมาช่วยกันสานต่อเจตนารมณ์เดียวกันคือ นักจิตอาสาสายบุญ ให้ผู้คนยากไร้ได้อิ่มท้องคือการทำบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุด โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน

จิตอาสา...พาสุขใจ

       เค เยาวราช บอกว่า ผมเป็นคนจน...ที่ยิ่งใหญ่ในการให้..ให้..ด้วยเงินตัวเอง แบบไม่หวังผล และก็ไม่น่าเชื่อนะ ว่ามีผู้ช่วยสมทบทุนในการเป็นจิตอาสามาตลอด เพราะพวกเขาเห็นว่าผมทำจริง ถึงผู้รับจริง ผมชอบปิดทองหลังพระ ถึงใครไม่รู้ แต่หัวใจผม...รับรู้ด้และก็อิ่มสุข สนุกกับทุกการช่วยเหลือจนผมได้กัลยานิมิตร จิตอาสา ที่มีอุดมการณ์เดียวกัน คืออยากให้สังคมมีสุข แบบไม่หวังผลตอบแทน โดยผมมีบุคคลต้นแบบคือ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่พระองค์ทรงอุทิศพระวรกายไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยตอลด 70 ปีที่ครองราชย์ ท่านทรงเสียสละความสุขเพื่อประชาชนของพระองค์ ผมจึงขอเจริญรอยตามพ่อของผ่นดิน และจะตอบแทนคุณแผ่นดินจนชิวิตจะหาไม่ครับ” เสียงหล่อๆ ที่พูดด้วยหัวใจแห่งความสุข…

ธนาคารความดี /ธนาคารบุญ

        เป้าหมายที่ผมอยากทำต่อไปคือ อยากทำ “ธนาคารความดี หรือ ธนาคารบุญ” ที่ทุกคนสามารถทำได้ด้วยหัวใจ ที่ไม่ต้องใช้เงินเป็นตัวตั้ง โดยการทำความดีที่ช่วยเหลือสังคม เช่น เก็บของได้แล้วคืนเจ้าของ หรือซื้อข้าว 1 กล่องให้กับคนยากไร้ แล้วนำความดีที่ตัวเองได้ทำ....มาใส่ “ธนาคารความดี/บุญ”  ถ้าทุกคนในประเทศไทย แค่เจียดหัวใจสักห้องมาช่วยกันทำความดี เท่ากับได้สะสมบุญกันวันละนิด...แล้วทุกชีวิตก็จะมีความสุข ผมต้องทำให้ได้ครับ ช่วยกันนะครับ ผมรับรอง ...คุณทำได้แน่นอน..

“กอล์ฟ” ภูตะคา ชัยเชาวรัตน์  จิตอาสา..ผู้ปิดทองหลังพระ

        กอล์ฟ ภูตะคา ชัยเชาวรัตน์ นักธุกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ดีกรีนักเรียนนอกจากออสเตรเลีย หนุ่มหล่อที่ใช้ชีวิตแบบร่ำรวย กิน ดื่ม เที่ยว เกี่ยวความสุขให้ตัวเอง จนมาประสบอุบัติเหตุต้องกลายเป็นมนุษย์ล้อ

มนุษย์ล้อ...เปลี่ยนชีวิต

        คุณกอล์ฟ เล่าว่า ด้วยความโชคดีที่ตัวเองเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะดี  และตัวเองก็ทำงานด้านอสังหาริมทรัพย์ รายได้ดี  จึงใช้ชีวิตเต็มที่กับทุกอย่าง กิน เที่ยว เกี่ยวความสุขทุกรูปแบบ จนประสบอุบัติเหตุที่ตัวเองคาดไม่ถึง  และโชคดีที่ไม่ตาย แต่ไม่สมบูรณ์ คือเดินไม่ได้ เรียกว่า ครึ่งบน สมองและหัวใจยังทำงานได้ดีปกติ แต่ครึ่งล่าง ขา 2 ข้างไม่สามารถใช้การได้ ต้องใช้ล้อ...แทน..ขา  มันเศร้าจริงๆ นะ กับการเป็นมนุษย์ล้อ แรกๆ ผมท้อมาก กับการที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แต่ก็มีครอบครัว เพื่อนๆ โดยเฉพาะมาเจอ พี่เค ที่เป็นจิตอาสาเพื่อสังคม ที่ทำให้ผมมีแรงฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง

ครึ่งหนึ่งของชีวิต...ที่จะอาสาเพื่อสังคม

         ในเมื่อฟ้าดินไม่ให้ผมตาย คืนชีวิตให้ผมครึ่งหนึ่ง คือ ครึ่งบนที่มีหัวใจ และสมองที่จะคิดทำความดีเพื่อสังคม ผมจะทำชีวิตที่เหลือครึ่งหนึ่งของผมให้ดีที่สุด กับการเป็นจิตอาสา ที่ท้าความสามารถผมสุดๆ แต่ผมก็จะทำจนสุดความสามารถด้วยแรงกาย และแรงใจ เพื่อเติมเต็มให้กับสังคม

จิตอาสา...ท้าหัวใจ

        “กำลังใจที่ทำให้ผมฮึดสู้อีกครั้งคือ ในหลวงรัชการที่ 9 เป็นแรงบรรดาลใจ ท่านทรงเหน็ดเหนื่อยกว่าพวกเราทุกคน ท่านเสียสละมากกว่าเราหลายร้อยเท่า ผมจึงได้เข้าร่วมเป็นจิตอาสาฯ เพื่อสังคมอย่างเต็มตัวในช่วงงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในหลวง ร.9 ได้เป็นส่วนหนึ่งของข้าฯแผ่นดิน จนได้พบเพื่อนๆ พี่ๆ จิตอาสามากมายหลายคน และพี่เค เยาวราช ผู้เป็นแรงหนุนให้กำลังใจ จนกลายเป็นคู่หูสายบุญ...”  แววตา และน้ำเสียงของหนุ่มกอล์ฟ ที่หัวใจล้นความสุข พร้อมที่จะมอบให้เพื่อสังคม

เหนื่อยมั้ย...กับการต้องไปร่วมกิจกรรม

         ทุกครั้งที่ไปร่วมกิจกรรม คุณกอล์ฟ บอกว่า ก็เหนื่อยนะ เพราะความไม่สะดวกของร่างกาย  แต่หัวใจผมสู้ทุกกิจกรรมครับ เพราะผมยังมีสมอง และหัวใจ ที่พร้อมจะส่งใจไปทุกที่ ผมจะใช้สิ่งที่ผมมี คือ หัวใจที่ไม่เคยท้อทำความดีให้กับสังคม โดยผมตั้งใจอยากให้ประเทศเรามี "อารยสถาปัตย์" ที่เอื้ออำนวยแก่คนพิการ สิ่งก่อสร้าง อาคาร สาธารณะในบ้านเราไม่ได้ออกแบบมาสำหรับคนพิการ และอีกบุคคลหนึ่งที่ผมศรัทธาคือคุณ อ๋อย (กฤษนะ ละไล) พิธีกรชื่อดัง ผู้กลายมาเป็นมนุษย์ล้อผู้ปลุกกระแสให้สังคมหันมาใส่ใจคนพิการ ได้ทำงานร่วมกันมาก็หลายๆ งาน

         เร็วนี้เราจะมีโครงการอุปสมบทหมู่ จำนวน 67 รูป ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลฯ เป็นหนึ่งในกิจกรรมดีๆ เพื่อสังคมต่อไป อยากเชิญชวนมาร่วมกิจกรรมดีๆนี้นะครับ รอยยิ้มอิ่มสุข บนใบหน้าคุณกอล์ฟ ที่เต็มไปด้วยพลังมุ่งมั่น ต้องปรบมือดังๆ ให้กับมนุษย์ล้อ “กอล์ฟ” ภูตะคา จิตอาสาที่จะพาทุกหัวใจไปพบความสุข ....

       วันนี้ช่างมีความสุขจริงๆ ได้สัมภาษณ์คน 2 คนที่ใช้หัวใจพูด อาสาทำความดี แบบไม่หวังผลตอบแทน อันซีนถิ่นไทย...สื่อออนไลน์ ได้สัมผัสถึงความสุขที่ 2 คู่หู...สายบุญจิตอาสา เพื่อสังคม และจะทำต่อไป และทำให้ดีที่สุด....เพื่อสังคม และแผ่นดินไทยตลอดชีวิต

     "เมตตา อารีย์ เอื้ออาทร แบ่งปันนำ้ใจ มิตรภาพ"

ทุกคำล้วนสร้างความสุขในใจคุณทุกคน ไม่ว่าจะรวยหรือจนเท่าๆกัน 

ขอขอบคุณสถานที่ : โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพ ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ในการสัมภาษณ์และถ่ายทำ

จำนวนผู้ชม 2707