วธ.ร่วมมือกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ๑ จัด “มหกรรมวัฒนธรรมชาติพันธุ์ล้านนาและประเทศในอาเซียน” ช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย.นี้ หนุนอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและวิถีชีวิตชาติพันธุ์-ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

วันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๒ ที่กระทรวงวัฒนธรรม กรุงเทพฯ
นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วยตัวแทนกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ๑ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวจัดงาน “มหกรรมวัฒนธรรมชาติพันธุ์ล้านนาและประเทศในอาเซียน” กิจกรรมสานสัมพันธ์วัฒนธรรมชาติพันธุ์ล้านนาสู่อาเซียนตามโครงการเสริมสร้างเอกลักษณ์และอัตลักษณ์การท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ๑ ซึ่งจัดขึ้นด้วยความร่วมมือระหว่างกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.)
โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง และลำพูน เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ อนุรักษ์ ฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรม และการดำรงชีพตามวิถีชีวิตของชาติพันธุ์ ธำรงไว้เพื่ออัตลักษณ์ของมรดกภูมิปัญญา และคุณค่าทางวิถีชุมชนที่ดีงาม ปลุกจิตสำนึกให้ทุกคนได้เห็นคุณค่าทางวัฒนธรรม เกิดความรักและหวงแหน ตลอดจนเป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ส่งเสริมและสนับสนุนการนำทุนทางวัฒนธรรมมาสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจพร้อมกับการส่งเสริมบทบาทของประเทศไทยที่ปีนี้รับหน้าที่เป็นประธานอาเซียน
โดยงานดังกล่าวจัดขึ้นระหว่าง วันที่ ๒๘ สิงหาคม - ๑ กันยายน ๒๕๖๒ ณ บริเวณลานจอดรถ หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ และ วันที่ ๑๑-๑๕ กันยายน ๒๕๖๒ ณ ศูนย์ศิลปาชีพแม่ฮ่องสอน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน
นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม มีนโยบายหลัก 4 ประการ ที่สำคัญ คือ สืบสาน รักษา ต่อยอด และหลักธรรมาภิบาล ประการที่ 1 ด้านการสืบสานงานวัฒนธรรมของชาติ โดยมีสาระสำคัญคือการสร้างความมั่นคงและความยั่งยืนของมรดกทางวัฒนธรรม
ประการที่ 2 ด้านการรักษาและหวงแหนมรดกทางวัฒนธรรมส่งเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างทรัพยากรบุคคลทางด้านศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม ศิลปินแห่งชาติ ปูชนียบุคคล ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้นำจิตวิญญาณ ผู้นำศาสนา ให้มีส่วนร่วมเป็นแม่พิมพ์ (Role Model) ในการถ่ายทอดภูมิปัญญา องค์ความรู้
ประการที่ 3 การต่อยอดวัฒนธรรม ด้วยการนำคุณค่าของวัฒนธรรมมาสร้างสรรค์สินค้าและบริการ (Creative Culture) เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวและบริการทางวัฒนธรรม และประการที่ 4 ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยหลักธรรมาภิบาล และการสร้างคุณค่าทางสังคม (Value Creation) ซึ่งงาน“มหกรรมวัฒนธรรมชาติพันธุ์ล้านนาและประเทศในอาเซียน” กิจกรรมสานสัมพันธ์วัฒนธรรมชาติพันธุ์ล้านนาสู่อาเซียน ตามโครงการเสริมสร้างเอกลักษณ์ และอัตลักษณ์การท่องเที่ยว กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ๑ นับเป็นอีกหนึ่งงานที่ถือเป็นงานต้นแบบในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ อนุรักษ์ ฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรม และการดำรงชีพตามวิถีชีวิตของชาติพันธุ์ธำรงไว้เพื่ออัตลักษณ์ของมรดกภูมิปัญญา และคุณค่าทางวิถีชุมชนที่ดีงาม ปลุกจิตสำนึกให้ทุกคนได้เห็นคุณค่าทางวัฒนธรรม เกิดความรักและหวงแหน ตลอดจนเป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม เชื่อมโยงทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และที่สำคัญคือเป็นการนำทุนทางวัฒนธรรมมาสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ช่วยสร้างรายได้ให้แก่ กลุ่มชาติพันธุ์ ชุมชน จังหวัด และประเทศ
ด้าน นายจารึก เหล่าประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวถึงการร่วมมือกันในครั้งนี้ว่า ในฐานะตัวแทนผู้จัดงานและกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ๑ ที่ประกอบไปด้วย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำปาง และลำพูน รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศลาว และประเทศเมียนมานั้น เรามีพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ทั้งหมดจำนวน 43 กลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งแต่ละกลุ่มชาติพันธุ์มีขนบธรรมเนียม ประเพณี และศิลปวัฒนธรรม ที่แตกต่างกัน มีการแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ หรือลักษณะเฉพาะ มีภาษา การใช้ชีวิต รวมถึงอาหารการกินเป็นของตัวเอง ซึ่งถือว่าเป็นมรดกทางภูมิปัญญาที่สำคัญ กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน๑ มีความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกันอนุรักษ์ ฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรม และการดำรงชีพตามวิถีชีวิตของชาติพันธุ์มาโดยตลอด
ซึ่งการร่วมกันจัด “งานมหกรรมวัฒนธรรมชาติพันธุ์ล้านนาและประเทศในอาเซียน” ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมชาติพันธุ์ กระชับความสัมพันธ์กลุ่มชาติพันธุ์ทั้งในประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมเปิดโอกาสให้คนไทยทั่วประเทศได้มาสัมผัสและเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ซึ่งการจัดงานได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะจากกลุ่มชาติพันธุ์ ทั้งนี้ เชื่อว่าทุกคนที่ได้มาสัมผัส นอกจากจะได้รับความเพลิดเพลิน ได้รับความรู้มากมายจากนิทรรศการและการสาธิตด้านศิลปวัฒนธรรมที่นำมาจัดแสดง รวมถึงได้ช่วยสนับสนุนสร้างรายได้ให้แก่กลุ่มชาติพันธุ์ ชุมชน และกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ๑ โดยการจับจ่ายสินค้าที่นำมาจำหน่ายที่งานนี้งานเดียวแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การนำไปสู่การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ยั่งยืน และเพื่อเป็นการเปิดพื้นที่ให้กลุ่มชาติพันธุ์ล้านนาได้เผยแพร่วิถีชีวิตให้แพร่หลาย ส่งผลให้เกิดการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ กิจกรรมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ ประกอบด้วย นิทรรศการมีชีวิต การแสดงแสง สี เสียง ประวัติความเป็นมาของแต่ละชาติพันธุ์ดั้งเดิมของทั้ง 4 จังหวัด การละเล่นกีฬาของชนเผ่า และศิลปะการต่อสู้ และกิจกรรมไฮไลท์การประกวดอาหารชาติพันธุ์และแฟชั่นโชว์ชุดแต่งกายของแต่ละชาติพันธุ์ รวมถึงมีกิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ๕ ด้าน ประกอบไปด้วย อาหาร, ภาพยนตร์และวิดีทัศน์, ผ้าและการออกแบบแฟชั่น, ศิลปะการต่อสู้ และการอนุรักษณ์และขับเคลื่อนเทศกาล ประเพณี โดยมีกิจกรรมต่างๆ ดังนี้
· กิจกรรมเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของกลุ่มชาติพันธุ์ จาก ๔ จังหวัด โดยมีหัวข้อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในด้านภาษา การแต่งกาย อาหาร และวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์
· นิทรรศการ โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์และจัดแสดงเครื่องแต่งกายของชาติพันธุ์
· การสาธิตภูมิปัญญาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ โดยเป็นภูมิปัญญา และผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมที่โดดเด่นของกล่มชาติพันธุ์
· การจำหน่ายอาหารชาติพันธุ์สร้างสรรค์สุขภาพ
· การแสดงศิลปวัฒนธรรมและดนตรีของกลุ่มชาติพันธุ์
· สารคดีชาติพันธุ์ ๔ จังหวัดเกี่ยวกับด้านอาหารและเครื่องแต่งกายแบบดั้งเดิม
“งานมหกรรมวัฒนธรรมชาติพันธุ์ล้านนาและประเทศในอาเซียน” กิจกรรมสานสัมพันธ์วัฒนธรรมชาติพันธุ์ล้านนาสู่อาเซียนตามโครงการเสริมสร้างเอกลักษณ์และอัตลักษณ์การท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๘ สิงหาคม - ๑ กันยายน ๒๕๖๒ ณ บริเวณลานจอดรถ หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ และวันที่ ๑๑ - ๑๕ กันยายน ๒๕๖๒ณศูนย์ศิลปาชีพจังหวัดแม่ฮ่องสอนติดตามข่าวสารและรายละเอียดงานเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/กิจกรรมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์
จำนวนผู้ชม 781
ข่าวอื่นๆ ในหมวด TRAVEL
ททท. ผนึกกำลังพันธมิตร เตรียมความพร้อมโครงการ Amazing Thailand Grand Sales 2023 กระตุ้นการช้อป กิน บิน เที่ยว ลดกระหน่ำทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ (26 พฤษภาคม 2566) นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นปร
Thailand Hub of Health & Travel : เที่ยวสุขภาพ นวดสุขภาพ สมุนไพรสุขภาพ วันที่ 12 – 17 ก.ค. 2565 บริเวณลานชั้น M ศูนย์การค้า The Market Bangkok
ชวนคนรักการท่องเที่ยงเชิงสุขภาพ ร่วมกิจกรรมต่างๆ แบบครบครันในงานเดียว Thailand Hub of Health &am
ททท. รับเทรนด์ท่องเที่ยวสายมู จัดโครงการ “เที่ยวแก้ชง เสริมมงคลปีขาล”
เช้านี้ (2 กุมภาพันธ์ 2565) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
TRAVEL
-
ททท. ผนึกกำลังพันธมิตร เตรียมความพร้อมโครงการ Amazing Thailand Grand Sales 2023 กระตุ้นการช้อป กิน บิน เที่ยว ลดกระหน่ำทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ (26 พฤษภาคม 2566) นายยุทธศักดิ์ สุภสร -
Thailand Hub of Health & Travel : เที่ยวสุขภาพ นวดสุขภาพ สมุนไพรสุขภาพ วันที่ 12 – 17 ก.ค. 2565 บริเวณลานชั้น M ศูนย์การค้า The Market Bangkok
ชวนคนรักการท่องเที่ยงเชิงสุขภาพ ร่วมกิจกรรมต่า -
ททท. รับเทรนด์ท่องเที่ยวสายมู จัดโครงการ “เที่ยวแก้ชง เสริมมงคลปีขาล”
เช้านี้ (2 กุมภาพันธ์ 2565) นายพิพัฒน์ รัชกิ -
ผ่อนคลายขั้นสุด กับโปรสุดว๊าว! @ โอเอซีส สปา เชียงใหม่
Oasis Spa ...Exclusive Relax วันนี้แอดมินจ
FOOD & RESTUARANTS
-
รีวิว: อาหารอีสาน ต้นตำร้บแท้ๆ เกรดพรีเมี่ยม "แซ่บคักๆ" (Zaab Kak Kak ) @ สุขุมวิท 16
สายแซ่บ...ต้องแว๊บมาร้านนี้ "แซ่บคักๆ&q -
ไปแซ่ปนัว ครัวอีสานต้นตำรับ @ แซ่บคักๆ (Zaab Kak Kak) สุขุมวิท 22
ชวนไปเปรี้ยวปาก จัดจ้านทุกเมนู กับ กุ้งซ่าส์ -
Indus - อินดัส อาหารอินเดียแห่งอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ @ สุขุมวิท 26
ไปลิ้มรสอาหารอินเดีย รสชาติละมุน กับ กุ้งซ่า -
“อิ่มบุญ อิ่มเจ 4 ภาค” เสริมบารมี สุขภาพดี วิถีบุญ กว่า 300 เมนู ร่วมสักการะขอพรเต๊าบ้อ และกิ้วอ้วงฮุดโจ้ว 9 เทพแห่งดวงดาว 16 – 25 ต.ค. ณ ไอคอนสยาม
ไอคอนสยามIcon Siamจัดมหาปรากฏการณ์ เทศกาลงานเจม